เฟิร์นที่มีลักษณะเป็นใบสีเขียวเรียวยาว ก้านใบเป็นสีน้ำตาลเข้ม สามารถนำมาปลูกในกระถางใช้เป็นไม้ประดับภายในอาคารได้ เฟิร์นชนิดนี้จะช่วยเสริมสร้างเกียรติยศให้กับคนในบ้านได้ และเปรียบเสมือนตัวแทนความซื่อสัตย์ ยุติธรรม คอยเตือนสติให้ผู้ปลูกทำแต่คุณงามความดี
เฟิร์นข้าหลวง

ที่มา:http://www.baanlaesuan.com/77640/plant-scoop/fern-popular/
เฟิร์นข้าหลวง จัดเป็นเฟิร์นที่มีลักษณะเหมือนกาฝาก อุปนิสัยชอบอยู่ในที่ชื้นร่มและชื้นตลอดทั้งวัน
เฟิร์นข้าหลวงจัดว่าเป็นเฟิร์นที่ใช้งานได้ตั้งแต่เล็ก (5-10 เซนติเมตร) จนถึงกระทั่งโต (ขนาดความยาวของใบ 0.5-1 เมตร) ดังนั้น เฟิร์นข้าหลวงจึงสามารถถอดกระถางแล้วนำใช้ประดับ ตกแต่ง หรือใช้ลำต้นของต้นไม้ทั้งแบบชั่วคราวและถาวรเพื่อสร้างความสวยงามได้อย่างดีในบางครั้งเฟิร์นข้าหลวงอาจจะต้องถูกจัดโชว์ในสวนต่าง ๆ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ถ้าหากใช้จัดงานกลางแจ้งนั้นไม่ควรไว้วางเกิน 1 สัปดาห์ เพราะนอกจากใบจะเริ่มซีดจนเหลืองแล้ว รูปทรงของใบก็จะเริ่มหงิกงอซึ่งสปอร์ของเฟิร์นข้าหลวงนั้นส่วนใหญ่ถ้าพื้นที่ในบริเวณนั้นชื้นแฉะมาก สปอร์ของเฟิร์นข้าหลวงที่โตเต็มวัยแล้วก็จะสามารถปลิวไปและเจริญเติบโตได้ตามเศษไม้หรือสิ่งใดที่ให้มีความชื้นอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงมื่อเฟิร์นข้าหลวงเจริญเติบโตขึ้นจนกระทั่งมีขนาด 3-5 เซ็นติเมตร ก็สามารถแกะหรือเคลื่อนย้ายจากวัสดุที่เขาไปเกาะอยู่นั้นลงในกระถางหรือวัสดุปลูกให้เหมาะสมกับขนาดของโคนต้นได้เฟิร์นข้าหลวงเป็นเฟิร์นที่ดูแลรักษาง่าย แต่การที่จะกระตุ้นการเจริญเติบโตให้รวดเร็วนั้นจำเป็นจะต้องขยับภาชนะปลูกให้เหมาะสมกับขนาดของต้นเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เฟิร์นข้าหลวงก็จะเจริญเติบโตสมวัย สวยสดใสในทุกเวลา
เฟิร์นสไบนาง

ที่มา:http://www.baanlaesuan.com/77640/plant-scoop/fern-popular/
ประเภท: เฟินอิงอาศัย
ลำต้น: เป็นเหง้าทอดเลื้อย มีเกล็ดสีน้ำตาลปกคลุม
ใบ: ใบที่ไม่สร้างสปอร์ (sterile frond) เป็นใบกาบรูปไข่หรือรูปโล่ ขอบหยักเป็นคลื่น ทำหน้าที่เก็บสะสมเศษซากอินทรียวัตถุ และใบที่สร้างสปอร์ (fertile frond) ยาวได้ถึง 20 เซนติเมตร มีก้านใบยาว ขอบใบหยักเป็นพูลึก มีอับสปอร์สีน้ำตาล เรียงขนานกับแนวเส้นกลางใบเป็นแถวเดียวหรือสองแถว ในฤดูหนาวใบจะเหี่ยวแห้งเหลือแต่เหง้า และผลิใบใหม่อีกครั้งในช่วงปลายฤดูร้อน
ดิน: ดินหรืออิฐผสมกาบมะพร้าวสับ
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: รำไร
ขยายพันธุ์: แยกเหง้าหรือเพาะสปอร์
การใช้งานและอื่นๆ : นิยมปลูกเป็นไม้แขวนหรือไม้กระถาง ♦ เป็นว่านทางเมตตามหานิยมที่ช่วยให้ค้าขายดี ♦ชาวอีสานใช้เหง้าเป็นยาบำรุงเลือด ช่วยคุมธาตุ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย สีเหลืองเข้ม หรือมีเลือดปน ภาวะไตพิการ ♦ มาเลเซียใช้เป็นสมุนไพรบดพอกแก้บวม ♦ มีว่านอีกชนิดหนึ่งคือ ว่านงูกวัก [D. sparsisora (Desv.) T.Moore] ที่คล้ายกัน แต่ไม่มีใบกาบที่ลำต้น พอเริ่มแก่เกล็ดสีน้ำตาลจะหลุดออกหมด ทำให้ดูคล้ายงู
https://www.gotoknow.org/posts/345616
http://book.baanlaesuan.com/plant-library/oak-leaf-fern/
เฟิร์นข้าหลวง

ที่มา:http://www.baanlaesuan.com/77640/plant-scoop/fern-popular/
เฟิร์นข้าหลวง จัดเป็นเฟิร์นที่มีลักษณะเหมือนกาฝาก อุปนิสัยชอบอยู่ในที่ชื้นร่มและชื้นตลอดทั้งวัน
เฟิร์นข้าหลวงจัดว่าเป็นเฟิร์นที่ใช้งานได้ตั้งแต่เล็ก (5-10 เซนติเมตร) จนถึงกระทั่งโต (ขนาดความยาวของใบ 0.5-1 เมตร) ดังนั้น เฟิร์นข้าหลวงจึงสามารถถอดกระถางแล้วนำใช้ประดับ ตกแต่ง หรือใช้ลำต้นของต้นไม้ทั้งแบบชั่วคราวและถาวรเพื่อสร้างความสวยงามได้อย่างดีในบางครั้งเฟิร์นข้าหลวงอาจจะต้องถูกจัดโชว์ในสวนต่าง ๆ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ถ้าหากใช้จัดงานกลางแจ้งนั้นไม่ควรไว้วางเกิน 1 สัปดาห์ เพราะนอกจากใบจะเริ่มซีดจนเหลืองแล้ว รูปทรงของใบก็จะเริ่มหงิกงอซึ่งสปอร์ของเฟิร์นข้าหลวงนั้นส่วนใหญ่ถ้าพื้นที่ในบริเวณนั้นชื้นแฉะมาก สปอร์ของเฟิร์นข้าหลวงที่โตเต็มวัยแล้วก็จะสามารถปลิวไปและเจริญเติบโตได้ตามเศษไม้หรือสิ่งใดที่ให้มีความชื้นอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงมื่อเฟิร์นข้าหลวงเจริญเติบโตขึ้นจนกระทั่งมีขนาด 3-5 เซ็นติเมตร ก็สามารถแกะหรือเคลื่อนย้ายจากวัสดุที่เขาไปเกาะอยู่นั้นลงในกระถางหรือวัสดุปลูกให้เหมาะสมกับขนาดของโคนต้นได้เฟิร์นข้าหลวงเป็นเฟิร์นที่ดูแลรักษาง่าย แต่การที่จะกระตุ้นการเจริญเติบโตให้รวดเร็วนั้นจำเป็นจะต้องขยับภาชนะปลูกให้เหมาะสมกับขนาดของต้นเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เฟิร์นข้าหลวงก็จะเจริญเติบโตสมวัย สวยสดใสในทุกเวลา
เฟิร์นสไบนาง

ที่มา:http://www.baanlaesuan.com/77640/plant-scoop/fern-popular/
ประเภท: เฟินอิงอาศัย
ลำต้น: เป็นเหง้าทอดเลื้อย มีเกล็ดสีน้ำตาลปกคลุม
ใบ: ใบที่ไม่สร้างสปอร์ (sterile frond) เป็นใบกาบรูปไข่หรือรูปโล่ ขอบหยักเป็นคลื่น ทำหน้าที่เก็บสะสมเศษซากอินทรียวัตถุ และใบที่สร้างสปอร์ (fertile frond) ยาวได้ถึง 20 เซนติเมตร มีก้านใบยาว ขอบใบหยักเป็นพูลึก มีอับสปอร์สีน้ำตาล เรียงขนานกับแนวเส้นกลางใบเป็นแถวเดียวหรือสองแถว ในฤดูหนาวใบจะเหี่ยวแห้งเหลือแต่เหง้า และผลิใบใหม่อีกครั้งในช่วงปลายฤดูร้อน
ดิน: ดินหรืออิฐผสมกาบมะพร้าวสับ
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: รำไร
ขยายพันธุ์: แยกเหง้าหรือเพาะสปอร์
การใช้งานและอื่นๆ : นิยมปลูกเป็นไม้แขวนหรือไม้กระถาง ♦ เป็นว่านทางเมตตามหานิยมที่ช่วยให้ค้าขายดี ♦ชาวอีสานใช้เหง้าเป็นยาบำรุงเลือด ช่วยคุมธาตุ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย สีเหลืองเข้ม หรือมีเลือดปน ภาวะไตพิการ ♦ มาเลเซียใช้เป็นสมุนไพรบดพอกแก้บวม ♦ มีว่านอีกชนิดหนึ่งคือ ว่านงูกวัก [D. sparsisora (Desv.) T.Moore] ที่คล้ายกัน แต่ไม่มีใบกาบที่ลำต้น พอเริ่มแก่เกล็ดสีน้ำตาลจะหลุดออกหมด ทำให้ดูคล้ายงู
http://book.baanlaesuan.com/plant-library/oak-leaf-fern/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น